กำเนิดของแปรงสีฟันไฟฟ้า เริ่มมาจากการประดิษฐ์คิดค้นแปรงสีฟันสำหรับผู้พิการ หรือผู้ที่ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมือ ในการแปรงฟันตามปกติได้ เช่น ผู้ป่วยที่ปวดเมื่อยตามข้อ ผู้ป่วยในโรงพยาบาล การใช้งานนั้นก็คือเมื่อเปิดสวิตช์ หัวแปรงจะทำการหมุนขนแปรงโดยอัตโนมัติ วางหัวแปรงเบาๆที่ผิวฟันทีละซี่ ทิ้งไว้พักหนึ่ง ให้ขนแปรงทำความสะอาด กำจัดเศษอาหาร และคราบจุลินทรีย์ แล้วเลื่อนหัวแปรงมาที่ฟันซี่ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะทำความสะอาดฟันครบทุกซี่และทุกด้านในช่องปาก จากความสะดวกสบายนี่เอง จึงเกิดเป็นการโฆษณาเพื่อการขายให้กับคนทั่วไป ซึ่งค่าใช้จ่ายก็จะแพงกว่าแปรงสีฟันธรรมดา ต้องเปลี่ยนหัวแปรงสม่ำเสมอ และต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากเคยมีกรณีหัวแปรงหลุดเข้าคอ
มีรายงานการวิจัยเสนอว่า การใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าสามารถช่วยทำให้หินปูนหรือหินน้ำลายขึ้นที่ผิวฟันได้น้อยลง เนื่องจาก ปกติผิวฟันมีประจุเป็นลบ หินปูนมีประจุเป็นบวก หินปูนจึงยึดติดกับผิวฟัน การใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า จะไปเปลี่ยนผิวฟันให้มีประจุเป็นบวก หินปูนจึงขึ้นที่ผิวฟันได้น้อยลง แต่เมื่อเทียบประสิทธิภาพในการกำจัดคราบจุลินทรีย์ระหว่างแปรงสีฟันไฟฟ้ากับแปรงสีฟันธรรมดาแล้ว ก็ไม่พบความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ขึ้นอยู่กับวิธีการใช้แปรงสีฟันของผู้ใช้แต่ละคนมากกว่า ดังนั้นก็แล้วแต่ดุลพินิจและกำลังทรัพย์มากน้อยของผู้ซื้อแปรงสีฟัน

