"อะมอลกัม" (amalgam) เป็นวัสดุอุด ฟันชนิดหนึ่งที่ผลิตจากโลหะผสม ได้แก่ ดีบุก เงิน และโลหะชนิดอื่นๆ อีกหลายชนิดประมาณ 50% และสารปรอทประมาณ 50% จึงทำให้มองเห็นเป็นสีเงินในเวลาที่เราเพิ่งจะอุดฟันเสร็จใหม่ๆ ที่น่าสนใจคือ มนุษย์เรารู้จักใช้วัสดุอะมอลกัมมานานกว่า 100 ปีแล้ว
แม้ ว่าจะแข็งแรง ทนทาน แต่มีข้อเสียตรงที่สีไม่เหมือนสีฟันธรรมชาติ ออกไซด์จากโลหะเข้าสู่เนื้อฟันทำให้เนื้อฟันเปลี่ยนสีมองเห็นเป็นสีดำคล้ำ ขึ้น จึงมีการถกเถียงเรื่องความปลอดภัยกันมานาน เช่น ในประเทศนอร์เวย์ สวีเดน และเดนมาร์ก ที่ประกาศห้ามใช้อะมอลกัมอุดฟัน
กระทั่ง FDA (องค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา) ออกมายอมรับว่า สารปรอทในอะมอลกัมจะระเหยออกมาเมื่อมีการอุดฟันหรือรื้อวัสดุอุดฟัน แม้กระทั่งระหว่างการเคี้ยวที่อาจจะเป็นอันตรายต่อระบบประสาทในเด็กและทารก ในครรภ์
S Medical Spa ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวัสดุอุดฟัน ที่มีสีธรรมชาติหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมี คุณสมบัติแตกต่างกัน ได้แก่
"เรซิ่นคอมโพสิต" เป็นพลาสติกชนิดหนึ่งจะแข็งตัวได้โดยการฉายแสง เลือกสีได้ตามสีฟันของแต่ละคน ปัจจุบันมีการพัฒนาไปเพื่อให้สวยงามเหมือนฟันธรรมชาติ และรองรับแรงบดเคี้ยวอาหารได้
"เซรามิก" เป็นวัสดุพอร์ซเลนที่มีส่วนประกอบของออกไซด์โลหะ สีเหมือนฟันธรรมชาติใช้สำหรับฟันที่ผุขนาดใหญ่ เป็นวัสดุที่รับแรงในการบดเคี้ยวได้มาก โดยทำเป็นอินเลย์ (inlay) จะให้ความแข็งแรงและสวยงามมากกว่าการอุดด้วยเรซิ่นคอมโพสิต
"โลหะทอง" แข็งแรงทนทานมาก เหมาะสำหรับการอุดฟันหลังโดยเฉพาะในคนไข้ที่กัดแรงมาก
...ข้อเสียอย่างเดียวคือ ราคาแพง