ลักษณะสีของฟันตามธรรมชาตินั้น

ฟันน้ำนมจะมีสีค่อนข้างขาว ถ้าเป็นฟันแท้มักมีสีค่อนข้างเหลืองเล็กน้อย สีจะไม่ขาวเท่ากับฟันน้ำนม ในบางคนอาจมีสีเหลือง หรือออกเทา จนถึงน้ำตาลเข้ม เนื่องจากการมีคราบฟัน โดยคราบฟันนี้เกิดขึ้นได้ 2 ลักษณะ คือ
คราบในฟันเอง
เป็นคราบที่เกิดในชั้นเคลือบฟันและเนื้อฟัน เกิดเนื่องจากมีความผิดปกติของการสร้างฟัน เช่น ร่างกายอ่อนแอขณะมีการสร้างฟัน การได้รับยาปฏิชีวนะบางอย่าง เช่น เตตร้าไซคลิน มีผลทำให้ฟันเปลี่ยนสี หรือการได้รับสารฟลูออไรด์มากเกินไป คราบภายในฟันนี้ไม่สามารถขัดออกได้
คราบภายนอกฟัน
เป็นคราบที่เกาะอยู่ภายนอกผิวเคลือบฟัน เกิดขึ้นเนื่องจากสาเหตุภายนอก เช่น สูบบุหรี่ อาหารบางอย่างทำให้เกิดคราบ เช่น น้ำชากาแฟ อาหารที่มีเครื่องเทศมากๆ และคราบหินปูน คราบภายนอกฟันนี้สามารถขัดออกได้
คราบฟันที่เกิดจากภายนอกมักจะติดแน่นกับเคลือบฟัน
การแปรงฟันอย่างเดียวไม่สามารถกำจัดคราบเหล่านี้ออกไปได้ ต้องใช้วิธีขัดฟันด้วยเครื่องมือร่วมกับผงขัด ซึ่งการขัดคราบที่เกิดจากอาหารใช้เวลาขัดไม่มากนัก แต่คราบที่เกิดจากบุหรี่ หรือหินปูนจะใช้เวลาขัดมากกว่า ทั้งนี้ขึ้นกับปริมาณของคราบที่สะสมอยู่ คราบสีบนฟันอาจมีสีต่างๆ ได้แก่
คราบสีน้ำตาล
มักเกิดกับผู้ที่แปรงฟันไม่สะอาดหรือไม่ใช้ยาสีฟันช่วยในการแปรงฟัน พบได้ตามบริเวณผิวฟันกรามบนด้านกระพุ้งแก้ม และบริเวณผิวด้านลิ้นของฟันหน้าล่าง

ฟันน้ำนมจะมีสีค่อนข้างขาว ถ้าเป็นฟันแท้มักมีสีค่อนข้างเหลืองเล็กน้อย สีจะไม่ขาวเท่ากับฟันน้ำนม ในบางคนอาจมีสีเหลือง หรือออกเทา จนถึงน้ำตาลเข้ม เนื่องจากการมีคราบฟัน โดยคราบฟันนี้เกิดขึ้นได้ 2 ลักษณะ คือ
คราบในฟันเอง
เป็นคราบที่เกิดในชั้นเคลือบฟันและเนื้อฟัน เกิดเนื่องจากมีความผิดปกติของการสร้างฟัน เช่น ร่างกายอ่อนแอขณะมีการสร้างฟัน การได้รับยาปฏิชีวนะบางอย่าง เช่น เตตร้าไซคลิน มีผลทำให้ฟันเปลี่ยนสี หรือการได้รับสารฟลูออไรด์มากเกินไป คราบภายในฟันนี้ไม่สามารถขัดออกได้
คราบภายนอกฟัน
เป็นคราบที่เกาะอยู่ภายนอกผิวเคลือบฟัน เกิดขึ้นเนื่องจากสาเหตุภายนอก เช่น สูบบุหรี่ อาหารบางอย่างทำให้เกิดคราบ เช่น น้ำชากาแฟ อาหารที่มีเครื่องเทศมากๆ และคราบหินปูน คราบภายนอกฟันนี้สามารถขัดออกได้
คราบฟันที่เกิดจากภายนอกมักจะติดแน่นกับเคลือบฟัน
การแปรงฟันอย่างเดียวไม่สามารถกำจัดคราบเหล่านี้ออกไปได้ ต้องใช้วิธีขัดฟันด้วยเครื่องมือร่วมกับผงขัด ซึ่งการขัดคราบที่เกิดจากอาหารใช้เวลาขัดไม่มากนัก แต่คราบที่เกิดจากบุหรี่ หรือหินปูนจะใช้เวลาขัดมากกว่า ทั้งนี้ขึ้นกับปริมาณของคราบที่สะสมอยู่ คราบสีบนฟันอาจมีสีต่างๆ ได้แก่
คราบสีน้ำตาล
มักเกิดกับผู้ที่แปรงฟันไม่สะอาดหรือไม่ใช้ยาสีฟันช่วยในการแปรงฟัน พบได้ตามบริเวณผิวฟันกรามบนด้านกระพุ้งแก้ม และบริเวณผิวด้านลิ้นของฟันหน้าล่าง

คราบบุหรี่
มักมีสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ เกิดจากสารจำพวกทาร์ที่มีอยู่ในยาสูบ และมักติดอยู่ตามหลุมร่องบนผิวเคลือบฟัน
คราบสีดำ
มีลักษณะเป็นเส้นสีดำบางๆ มักเกิดบริเวณขอบเหงือกและรอยต่อของฟันแต่ละซี่ ซึ่งเชื่อกันว่าเกิดจากเชื้อจุลินทรีย์
คราบสีโลหะ
เกิดจากการรับประทานยาที่มีส่วนผสมของโลหะ หรือการหายใจเอาฝุ่นธาตุของโลหะเข้าไป เช่น ทองแดงทำให้เกิดคราบสีเขียว เหล็กทำให้เกิดคราบสีน้ำตาล
ฟันเหลืองที่เกิดจากความผิดปกติของเนื้อเยื่อฟัน
ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าเป็นความผิดปกติในชั้นเคลือบฟัน หรือเนื้อฟัน หากว่าฟันเปลี่ยนไม่มากนักที่ชั้นเคลือบฟันก็ควรปล่อยทิ้งไว้ และดูแลอนามัยช่องปากอย่างสม่ำเสมอก็เพียงพอแล้ว ในปัจจุบันได้มีการนำวิธีการฟอกสีฟันให้ขาวมาช่วยแก้ไขปัญหาของฟันที่เปลี่ยนสีนี้ได้ แต่พบว่า ฟันที่มีสีเหลืองมักจะฟอกให้ขาวได้ผลดีกว่าการฟอกฟันที่ออกสีน้ำตาล ส่วนฟันที่มีสีเทาอาจจะใช้ฟอกสีขาวได้ยาก จึงควรได้รับคำแนะนำจากทันตแพทย์ก่อนที่จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ เพราะการฟอกสีฟันในบางครั้งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง ที่พบบ่อยคือ ฟันอาจมีอาการเสียวต่อความรู้สึกเย็น หรือมีรอยฝ้าขาวๆ ที่ขอบเหงือก อาการเหล่านี้มักจะหายไปภายใน 1-3 วัน หลังจากหยุดการฟอกสีฟันแล้ว
มักมีสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ เกิดจากสารจำพวกทาร์ที่มีอยู่ในยาสูบ และมักติดอยู่ตามหลุมร่องบนผิวเคลือบฟัน
คราบสีดำ
มีลักษณะเป็นเส้นสีดำบางๆ มักเกิดบริเวณขอบเหงือกและรอยต่อของฟันแต่ละซี่ ซึ่งเชื่อกันว่าเกิดจากเชื้อจุลินทรีย์
คราบสีโลหะ
เกิดจากการรับประทานยาที่มีส่วนผสมของโลหะ หรือการหายใจเอาฝุ่นธาตุของโลหะเข้าไป เช่น ทองแดงทำให้เกิดคราบสีเขียว เหล็กทำให้เกิดคราบสีน้ำตาล
ฟันเหลืองที่เกิดจากความผิดปกติของเนื้อเยื่อฟัน
ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าเป็นความผิดปกติในชั้นเคลือบฟัน หรือเนื้อฟัน หากว่าฟันเปลี่ยนไม่มากนักที่ชั้นเคลือบฟันก็ควรปล่อยทิ้งไว้ และดูแลอนามัยช่องปากอย่างสม่ำเสมอก็เพียงพอแล้ว ในปัจจุบันได้มีการนำวิธีการฟอกสีฟันให้ขาวมาช่วยแก้ไขปัญหาของฟันที่เปลี่ยนสีนี้ได้ แต่พบว่า ฟันที่มีสีเหลืองมักจะฟอกให้ขาวได้ผลดีกว่าการฟอกฟันที่ออกสีน้ำตาล ส่วนฟันที่มีสีเทาอาจจะใช้ฟอกสีขาวได้ยาก จึงควรได้รับคำแนะนำจากทันตแพทย์ก่อนที่จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ เพราะการฟอกสีฟันในบางครั้งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง ที่พบบ่อยคือ ฟันอาจมีอาการเสียวต่อความรู้สึกเย็น หรือมีรอยฝ้าขาวๆ ที่ขอบเหงือก อาการเหล่านี้มักจะหายไปภายใน 1-3 วัน หลังจากหยุดการฟอกสีฟันแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น